เที่ยวน่านหน้าฝน สนุกกับทริปเที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน พาคุณสนุกไปกับกิจกรรมล่องแก่งสุดมัน สัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์และธรรมชาติที่สวยงาม จนทำให้คุณตกหลุมรักน่านเข้าอย่างจัง
เที่ยวน่านหน้าฝน สนุกกับทริปเที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน พาคุณสนุกไปกับกิจกรรมล่องแก่งสุดมัน สัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์และธรรมชาติที่สวยงาม จนทำให้คุณตกหลุมรักน่านเข้าอย่างจัง
น่าน...จังหวัดแห่งวิถีชีวิตเนิบ ๆ จังหวัดที่งดงามทั้งด้วยเรื่องธรรมชาติ วัฒนธรรม และเอกลักษณ์ท้องถิ่น เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ฤดูหนาวที่น่านคุณก็จะได้สัมผัสลมเย็น ๆ เคล้าสายหมอก หรือจะเป็นฤดูฝนคุณก็จะได้เห็นความเขียวขจีของทิวเขา เหล่านี้เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ใครต่อใครต่างพากันมาปักหมุดเที่ยวน่านแทบตลอดทั้งปี
หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าที่น่านเที่ยวไหนดี หรือมีอะไรดี ? วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ เปิดมุมมองการท่องเที่ยวเมืองน่านที่แตกต่างไปจากเดิม ด้วยการนำเสนอตัวอย่างทริปเที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน บอกเลยว่าคุณจะได้สัมผัสกับความสวยงาม ความสุข และความสนุกอย่างเต็มรูปแบบ
โดยครั้งนี้จะเน้นเส้นทางท่องเที่ยวล่องแก่งสุดมันเข้ากับช่วงหน้าฝน แวะชมวิถีชีวิตที่อำเภอบ่อเกลือ ชมธรรมชาติสวย ๆ ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา และปิดท้ายด้วยการปั่นจักรยานย้อนอดีตชมคุ้มเก่าแห่งเมืองน่าน ลองมาดูกันสิว่าทริปท่องเที่ยวน่านในครั้งนี้จะทำให้เราประทับใจมากน้อยแค่ไหน ตามเรามาดูกันเลย
เที่ยวน่าน วันที่ 1 : เดินทางสู่จังหวัดน่าน
เช้าวันแรกของการเดินทาง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ กันแต่เช้า ปัจจุบันการเดินทางมาเที่ยวน่านทำได้โดยสะดวก แต่ถ้าไม่ให้เป็นการเสียเวลาที่สุด เราแนะนำให้คุณเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการทั้งหมด 2 สายการบิน ได้แก่
- นกแอร์ (ดอนเมือง-น่าน) สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ www.nokair.com, เฟซบุ๊ก Nok Air หรือโทรศัพท์ 1318
- ไทยแอร์เอเชีย (ดอนเมือง-น่าน) สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ www.airasia.com, เฟซบุ๊ก AirAsia หรือโทรศัพท์ 02 515 9999
++ เปิดฤดูการล่องแก่งสุดมัน ณ อำเภอแม่จริม
จากท่าอากาศยานน่านนคร เดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอแม่จริม เป็นระยะทางประมาณ 55-60 กิโลเมตร ก็จะถึงเป้าหมายแรกสำหรับการเดินทางของเรา ณ อุทยานแห่งชาติแม่จริม ที่นี่มีกิจกรรมไฮไลต์เด็ดสำหรับการเดินทางไปเที่ยวน่านในช่วงหน้าฝน นั่นคือ "กิจกรรมล่องแก่งน้ำว้า" ว่ากันว่าที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสายน้ำที่เป็นที่สุดของการล่องแก่งในประเทศไทย
ทั้งนี้ไม่ต้องห่วงในเรื่องความปลอดภัย เพราะเจ้าหน้าที่คอยดูแลนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด และเพราะว่าเป็นกิจกรรมในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้อาจจำเป็นที่จะต้องดูสถานการณ์จากพยากรณ์อากาศว่ามีพายุใหญ่ช่วงไหน แต่ถ้าเป็นหน้าฝนที่ฝนตกปกติก็สามารถล่องได้ตามปกติ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ล่องเเก่งน้ำว้า แจงแอนด์เจทัวร์ หรือโทรศัพท์ 081 765 4194, 054 769 026
++ ล้มตัวลงนอน
ไม่เพียงแต่กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำว้าแล้ว ภายในอุทยานแห่งชาติแม่จริมยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกเพียบ เช่น ขับรถชมวิว, เดินป่าเลียบลำน้ำแปง หรือปีนเขาหน่อ เป็นต้น ซึ่งหลังจากที่เราทำกิจกรรมกันตลอดช่วงเช้ากันที่อุทยานแห่งชาติแม่จริมแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องนล้มตัวลงนอนกันแล้ว
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากเดินทางออกไปพักข้างนอกอุทยาน ภายในอุทยานแห่งชาติแม่จริมเอง ก็มีในส่วนของการให้บริการบ้านพัก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปจองที่พักล่วงหน้าได้ที่ เว็บไซต์ nps.dnp.go.th หรือโทรศัพท์ 02 561 0777
++ เปิดฤดูการล่องแก่งสุดมัน ณ อำเภอแม่จริม
จากท่าอากาศยานน่านนคร เดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอแม่จริม เป็นระยะทางประมาณ 55-60 กิโลเมตร ก็จะถึงเป้าหมายแรกสำหรับการเดินทางของเรา ณ อุทยานแห่งชาติแม่จริม ที่นี่มีกิจกรรมไฮไลต์เด็ดสำหรับการเดินทางไปเที่ยวน่านในช่วงหน้าฝน นั่นคือ "กิจกรรมล่องแก่งน้ำว้า" ว่ากันว่าที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสายน้ำที่เป็นที่สุดของการล่องแก่งในประเทศไทย
ภาพจาก pongpol chanapai / Shutterstock.com
ภาพจาก pongpol chanapai / Shutterstock.com
โดยกิจกรรมล่องแก่งน้ำว้าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ล่องแก่งตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี โดยสายน้ำว้าเป็นสายน้ำที่มีความยาวมากกว่า 300 กิโลเมตร แบ่งช่วงของลำน้ำว้าออกเป็น น้ำว้าตอนบน น้ำว้าตอนกลาง และน้ำว้าตอนล่าง ซึ่งที่น่าสนใจคือช่วงน้ำว้าตอนบน-กลาง มีแก่งมากกว่า 100 แก่ง ตลอดลำน้ำว้ายังมีลำธารและน้ำตกสายน้อยใหญ่ ที่ไหลลงมารวมเป็นแม่น้ำว้า น้ำตกสวยงามที่เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งนี้ไม่ต้องห่วงในเรื่องความปลอดภัย เพราะเจ้าหน้าที่คอยดูแลนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด และเพราะว่าเป็นกิจกรรมในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้อาจจำเป็นที่จะต้องดูสถานการณ์จากพยากรณ์อากาศว่ามีพายุใหญ่ช่วงไหน แต่ถ้าเป็นหน้าฝนที่ฝนตกปกติก็สามารถล่องได้ตามปกติ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ล่องเเก่งน้ำว้า แจงแอนด์เจทัวร์ หรือโทรศัพท์ 081 765 4194, 054 769 026
ภาพจาก Munthita / Shutterstock.com
++ ล้มตัวลงนอน
ไม่เพียงแต่กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำว้าแล้ว ภายในอุทยานแห่งชาติแม่จริมยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกเพียบ เช่น ขับรถชมวิว, เดินป่าเลียบลำน้ำแปง หรือปีนเขาหน่อ เป็นต้น ซึ่งหลังจากที่เราทำกิจกรรมกันตลอดช่วงเช้ากันที่อุทยานแห่งชาติแม่จริมแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องนล้มตัวลงนอนกันแล้ว
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากเดินทางออกไปพักข้างนอกอุทยาน ภายในอุทยานแห่งชาติแม่จริมเอง ก็มีในส่วนของการให้บริการบ้านพัก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปจองที่พักล่วงหน้าได้ที่ เว็บไซต์ nps.dnp.go.th หรือโทรศัพท์ 02 561 0777
เที่ยวน่าน วันที่ 2 : เส้นทางวิถีชีวิตแห่งธรรมชาติที่บ่อเกลือ-อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงวิธีการต้มเกลือแบบดั้งเดิมอยู่ รวมถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายและอัธยาศัยอันดีของชาวบ้านที่ใครเห็นเป็นต้องประทับใจ และยังคงดูแลรักษาบ่อน้ำเกลือ สืบทอดวิธีการต้มเกลือแบบโบราณ รวมถึงการรักษาประเพณีแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
ภาพจาก Vassamon Anansukkasem / Shutterstock.com
เราออกเดินทางจากอุทยานแห่งชาติแม่จริมแต่เช้าตรู่ ลัดเลาะขับขึ้นเหนือไปยังอำเภอบ่อเกลือ อีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของน่าน ที่นี่มีแหล่งเกลือสินเธาว์ขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณ ลักษณะของบ่อเกลือเป็นหลุมลึกลงไปหลายเมตร ชะโงกดูไม่เห็นก้นบ่อเลย บริเวณปากบ่อจะมีไม้กั้นเป็นคอก และมีนั่งร้านสำหรับตักน้ำเกลือขึ้นมานักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงวิธีการต้มเกลือแบบดั้งเดิมอยู่ รวมถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายและอัธยาศัยอันดีของชาวบ้านที่ใครเห็นเป็นต้องประทับใจ และยังคงดูแลรักษาบ่อน้ำเกลือ สืบทอดวิธีการต้มเกลือแบบโบราณ รวมถึงการรักษาประเพณีแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
จากนั้นเราเดินทางเที่ยวกันต่อที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากอำเภอบ่อเกลือมากนัก ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาแวะชมและสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติของป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ หรือถ้าใครมาที่นี่แล้วไม่อยากพลาดไฮไลท์เด็ดแล้วละก็ เราขอแนะนำให้ลองไปชม "ต้นชมพูภูคา" ซึ่งเป็นไม้พันธุ์หายากใกล้สูญพันธุ์และมีเพียงที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคาแห่งเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ภายในอุทยานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเพียบ เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ จุดชมวิวลานดูดาว น้ำตกต้นตอง หรือถ้ำผาแดง เป็นต้น
เพราะว่าเราใช้เวลาเที่ยวในวันที่สองไปค่อนข้างเยอะ ถ้าใครที่ยังไม่อยากตีรถยาวเข้าเมืองก็สามารถนอนพักชิล ๆ ได้ที่อำเภอบ่อเกลือ ที่นี่มีที่พักที่ทั้งสวยและน่าสนใจอยู่ไม่น้อย (ดูเพิ่มเติมได้ที่ 6 ที่พักบ่อเกลือ น่าน บรรยากาศโคตรเทพ อิ่มเอมธรรมชาติสุดปัง) หรือถ้านักท่องเที่ยวคนไหนอยากที่จะเข้าไปพักในตัวเมือง ก็มีที่พักที่น่าสนใจอยู่หลายที่ หลากหลายบรรยากาศ และสิ่งอำนวยความสะดวกก็แสนจะครบครัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "ที่พักน่าน 11 ที่พักน่านบรรยากาศดี มีสไตล์" ได้เช่นเดียวกัน เอาไว้นอนพักเอาแรง ก่อนที่วันพรุ่งนี้เราจะเสพวิถีสโลว์ไลฟ์ในตัวเมืองน่านกัน
เที่ยวน่าน วันที่ 3 : เยือนคุ้มโบราณ ณ น่าน
เช้าวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ เที่ยวรอบตัวเมืองน่าน ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านกัน ด้วยเพราะน่านเป็นเมืองเก่าที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน เราจึงเห็นคุ้มเจ้านายโบราณกระจายตัวอยู่รอบคุ้มหลวง ซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครน่าน บ้างก็ตกทอดสู่ทายาท บ้างก็ใช้เป็นที่ทำการส่วนราชการ บ้างก็ถูกรื้อแล้วขายที่ดินให้แก่ราชการและเอกชนต่อไป
ซึ่งที่น่านเองก็มีเส้นทางเอาใจนักปั่นไว้มากมาย ทั้งเส้นทางปั่นไหว้พระ เส้นทางปั่นชมทัศนียภาพ หรือเส้นทางปั่นชมวิถีชีวิต แต่ในครั้งนี้เราจะขอพาคุณปั่นสองล้อไปกับเส้นทางปั่นชมคุ้มโบราณ ซึ่งมีระยะทางรวม 10 กิโลเมตร โดยใช้เวลาปั่นประมาณ 3-4 ชั่วโมง
ภาพจาก Anirut Thailand / Shutterstock.com
ก่อนอื่นนักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน บริเวณถนนผากอง (ตรงข้ามวัดภูมินทร์) ที่นั่นจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว รวมถึงข้อมูลเส้นทางการปั่นจักรยานเอาไว้อย่างเสร็จสรรพ ไล่ไปตั้งแต่ "คุ้มเทพมาลา" คุ้มหลังนี้แต่เดิมเป็นของเจ้านางเทพมาลา ธิดาคนแรกของเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ปัจจุบันเป็นที่พำนักของทายาทเจ้าบุญศรี เมืองชัย
ปั่นมาต่อที่ "คุ้มเจ้าราชบุตร" เจ้าอนันตวรฤทธิเดชได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2409 เพื่อเป็นที่อยู่ของเจ้าน้อยมหาพรหมณน่านและชายาคือแม่เจ้าศรีโสภา ต่อมาเมื่อท่านได้รับสถาปนาเป็นเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 64 จึงย้ายไปประทับที่หอคำและยกคุ้มแห่งนี้ให้บุตรชายคือเจ้าประพันธ์พงศ์ (เจ้าน้อยหมอกฟ้า ณ น่าน) ปัจจุบันได้ตกแก่ทายาท เจ้าสมปรารถนา ณ น่าน เป็นผู้ดูแล
นอกเหนือจากนี้ตลอดเส้นทางคุณยังจะได้ชื่นชมความสวยงามทางสถาปัตยกรรมและคุณค่าประวัติศาสตร์อีกมากมาย ทั้ง "อาคารทองคำ" "บ้านคุณหลวง" "เฮือนเจ้าหมอกฟ้า" "คุ้มเมฆวดี" "คุ้มเจ้าบัวเขียว" และ "โองเจ้าฟองคำ" และถึงแม้ว่าเราอาจไม่ได้เข้าชมภายในคุ้มทั้งหมด แต่แค่ได้เห็นร่องรอยสถาปัตยกรรมความสวยงาม เหล่านี้ทำให้เรารู้สึกได้ว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มจริง ๆ หลังจากนั้นก็ถึงเวลาเดินทางกลับบ้านกันแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น